วันอังคารที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2553

พุทธานุภาพนำพล


อันใจคน เมื่อจนคิด มักจิตคด

ลู่ทางหมด มุ่งทำ เพียงนำผล

สิ่งดีหาย สิ่งร้ายหา มาสู่ตน

กอปรหลายหน ก่อกัน เป็นสันดาน

สกลกบ เกลือกไกล้ กลิ่นบงกช

ห่อนรู้รส ดื่มด่ำ ชื่นฉ่ำหวาน

เฉกโมฆะ อมนุษย์ ทุดถ่อยพาล

อนิจจา อนาจาร อนาถใจ

ความชอบธรรม ประกาศิต ลิขิตฟ้า

หรือเทพเทือก เลือกสา- ระแนให้

อำนาจนำ ธรรมา- ธิปไตย

คือหัวใจ ปรารถนา ประชาชน

หยุดเถิดหยุด นักการเมือง ผู้เขื่องคด

หยุดโป้ปด กลับกลอก หลอกสับสน

หยุดพลิกพลิ้ว ชิวหา มายากล

หยุดทำตน เพื่อผล พรรคพวกตน

สุเทพเทือก เลือกสับปลับ อัปยศ

ไม่อายอด- สูใจ ไปเกลือกกลั้ว

อึอาจม ตมเลน เปนเมามัว

อุ้มคนชั่ว เข่นฆ่า ประชาชน

เจ็ดตุลา ยังไม่สิ้น กลิ่นคาวเลือด

กระชากเชือด กระทืบย้ำ ซ้ำอีกหน

หามีใคร ใจด้าน พอทานทน

พุทธานุภาพ นำพล มาทวงคืน

ลุ่มน้ำ เมืองนัง

เขตปลอดคำผิด

สวัสดีปีใหม่อีกทีครับ คุณสามวา สองศอก ที่รักและนับถือ

ต้องขอขอบคุณที่นำ "สวัสดีปีใหม่" (ยังไม่สาย) ลงพิมพ์ ที่จดหมายมานี้นอกจากขอบพระคุณแล้ว ต้องขออนุญาตทำความเข้าใจกับฝ่ายพิสูจน์อักษรหน่อย

ต้นฉบับผมเขียนว่า ทุกประการท่าน ม่ง ประสงค์ใด

ม่ง สัมผัสกับ ประสงค์ ยังได้ทำเครื่องหมาย ม่ง = มุ่ง คือม่งกับมุ่งมีความหมายเดียวกัน แต่ที่ต้องใช้ ม่ง เพื่อสัมผัสกับ ประสงค์

แต่ฝ่ายพิสูจน์อักษรกลับเข้าใจว่า ม่ง = มุ่ง ให้แก้ ม่ง เป็น มุ่ง จึงแก้ ม่ง เป็น มุ่ง

บทกลอนจึงออกมาเป็น

ทุกประการท่านมุ่งประสงค์ใด มันก็เลยไม่สัมผัสกัน

มุ่ง สัมผัสกับ ประสงค์ ทุกประการท่าน ม่ง ประสงค์ใด

เมื่อแก้ ม่ง เป็น มุ่ง ก็ต้องแก้ ประสงค์ เป็น ประสุงค์ จึงจะรับสัมผัสกัน

ที่เขียนมานี้เพราะเกิดอารมณ์ขัน เพียงทำความเข้าใจกับฝ่ายพิสูจน์อักษรเท่านั้น คุณสามวา สองศอก ไม่ต้องลงแก้ให้ยุ่งยากนะครับ

เจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี (สนั่น เทพหัสดิน) ในบทประพันธ์ของท่าน ท่านยังใช้ ม่ง เลยครับ ตัวอย่าง

ดัดเด็ก ฤ ดัดไม้ ขณะอ่อนก็กำลัง

นานไป บ่ได้ดัง มานะม่งประจงสมาน

ผ่อง พันธุโรทัย

ตอบ ลุงผ่อง

ผมขอขัดใจลุงผ่องสักครั้งเถอะนะครับ ที่บอกว่าจดหมายฉบับนี้ไม่ต้องนำมาลง แต่ผมกลับเห็นว่าถ้าไม่นำมาลงจะเกิดข้อผิดพลาดขึ้นอีก โดยเฉพาะกับฝ่ายพิสูจน์อักษร ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเด็กรุ่นใหม่ และไม่มีความรู้เกี่ยวกับการเขียนบทกลอน

สาเหตุที่ฝ่ายพิสูจน์อักษรไปแก้คำว่า ม่ง ของลุงผ่องเป็น มุ่ง ผมก็มีส่วนที่จะต้องรับผิดชอบ เพราะผมเป็นคนอ่านจดหมายลุงผ่อง และนำกลอนสวัสดีปีใหม่ (ยังไม่สาย) มาลง แต่ผมลืมกำชับกับฝ่ายพิสูจน์อักษรว่าอย่าไปแก้คำว่า ม่ง ให้เป็น มุ่ง

เพราะลืมไปว่าเด็กสมัยนี้ไม่มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องสัมผัสนอกสัมผัสในของบทกลอน ถ้าฝ่าย

พิสูจน์อักษรเป็นแค่นักกลอนไม่ถึงกับต้องเป็นนักเขียนกลอน ก็น่าจะรู้ว่าที่ลุงผ่องเขียนคำว่า ม่ง เพื่อให้สัมผัสกับคำว่า ประสงค์ ถ้าจะโทษฝ่ายพิสูจน์อักษรในเรื่องนี้ ผมก็ขอรับผิดไปคนเดียวเก้าในสิบส่วน ในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่ที่ไม่รู้จักเด็กฝ่ายพิสูจน์อักษรของไทยโพสต์

ถ้าผมเป็นฝ่ายพิสูจน์อักษรของไทยโพสต์ จะรู้สึกเป็นเกียรติที่ผู้อาวุโสอย่างลุงผ่อง ซึ่งเป็นอดีตฝ่ายพิสูจน์อักษรของไทยรัฐให้ความเมตตาท้วงติง และสอนการทำงานของฝ่ายพิสูจน์อักษร ซึ่งมีความสำคัญสำหรับหนังสือพิมพ์ทุกฉบับ

หนังสือพิมพ์คุณภาพนั้นไม่ได้หมายความว่าต้องมีนักข่าวและคอลัมนิสต์ชื่อดังเท่านั้น แต่หนังสือพิมพ์คุณภาพต้องมีคำผิดน้อยที่สุด ผู้ที่จะขจัดคำผิดในหนังสือพิมพ์ก็คือฝ่ายพิสูจน์อักษรนั่นแหละแต่บางครั้งนอกจากจะไม่ขจัดคำผิดแล้ว ฝ่ายพิสูจน์อักษรที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ ยังทำให้คำที่ถูกแล้วอย่างคำว่า ม่ง ของลุงผ่องแก้ให้ผิดเป็น มุ่ง ถ้าเป็นไปได้ผมอยากจะไปอุ้มลุงผ่องจากมหาชัย ให้มาช่วยสอนฝ่ายพิสูจน์อักษรรุ่นหลานรุ่นเหลนที่ไทยโพสต์ เพราะความรู้ของลุงผ่องต้องมีคนรุ่นใหม่มาสืบสาน

ของขวัญปีใหม่

เรียน คุณสามวาฯ

ขอถามว่า คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี รับแหวนจากชาวบ้านถูกฝ่ายค้านจ้องเล่นงาน หาว่ารับของขวัญที่มีมูลค่าเกิน 3 พันบาท แล้วสื่อมวลชนอย่างพวกคุณที่ปีใหม่ทุกปี จะได้รับของขวัญเป็นจำนวนมาก อยากทราบว่าสื่อมวลชนมีกำหนดหรือไม่ ว่าต้องรับของขวัญมูลค่าไม่เกินกี่ร้อย กี่พัน กี่หมื่น หรือกี่แสนบาท
ช่วยไขข้อข้องใจให้ผมหน่อยเถอะ

อิจฉาตาร้อ

ตอบ คุณอิจฉาตาร้อน

ผมยอมรับว่าตั้งแต่ทำงานหนังสือพิมพ์มาหลายฉบับ ทุกปีก็จะได้รับของขวัญจากมิตรรักแฟนเพลง ส่วนใหญ่ก็จะเป็นของขวัญจากฝ่ายประชาสัมพันธ์ ของหน่วยราชการและบริษัทห้างร้านที่ส่งข่าวประชาสัมพันธ์มาให้ตลอดทั้งปี ของขวัญแต่ละชิ้นผมไม่ทราบมูลค่าหรอกครับ เพราะบางบริษัทก็ส่งเป็นบัตรอวยพร ส่งเป็นปฏิทิน สมุดบันทึก สมุดจดข่าว ปากกา ดินสอ บ้างก็เป็นของชำร่วยที่ผลิตขึ้นเอง กระเช้าก็ส่งกันมามากเหมือนกัน มีทั้งกระเช้าดอกไม้ กระเช้าผลไม้ กระเช้าของกิน เมื่อก่อนจะมีกระเช้าที่มีสุราแอบแฝงมาด้วย ตั้งแต่ สสส.รณรงค์ให้ทุกหน่วยงานเลิกส่งกระเช้าที่มีเหล้า โดยมีสโลแกนว่า ให้เหล้า = แช่ง เดี๋ยวนี้กระเช้าที่ส่งมาก็มีแต่กระเช้าปลอดเหล้า

บางหน่วยงานก็ส่งข้าวกล้องมาให้หนึ่งกิโลกรัม คงจะส่งมาเตือนสติว่ากินข้าวขาวไม่มีวิตามิน สู้กินข้าวกล้องไม่ได้ที่ได้สารอาหารมากกว่า

ของขวัญปีใหม่ส่วนใหญ่จะส่งให้เฉพาะระดับหัวหน้า หรือคอลัมนิสต์ดังๆ แต่หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์มีคนทำงานเกินร้อย ก็ต้องใช้วิธีเอาของขวัญที่ได้รับมารวมกัน แล้วใช้วิธีให้พนักงานทุกคนจับสลาก แต่ปีนี้ของขวัญที่ได้มาน้อยผิดปกติ เลยปีใหม่มาแล้วของขวัญยังได้กันไม่ครบคนเลยครับ

ของขวัญที่ผมได้รับทุกปีคือถุงน่องถุงเท้า ซึ่งมีบริษัทที่ผลิตส่งมาให้เป็นประจำทุกปี แต่พนักงานที่จับได้ถุงน่องกับถุงเท้าไม่รู้จะเอาไปทำอะไร ผมก็เลยต้องขอแลกเอามาเป็นของตัวเอง จนกลายเป็นธรรมเนียมที่รู้กันว่า ถ้าใครจับสลากของขวัญได้ถุงน่องถุงเท้า ต้องเอามาแลกกับผมคนเดียวเท่านั้น

ถ้าถามถึงมูลค่าของขวัญที่ได้รับในแต่ละปี ผมก็ไม่แน่ใจว่าจะประเมินราคาได้ถูกต้องหรือเปล่า อย่างกระเช้าของขวัญก็คงประมาณพันกว่าบาท เพราะเดี๋ยวนี้แต่ละกระเช้าไม่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แต่ผมอาจจะประเมินผิดก็ได้ เพราะชีวิตนี้ยังไม่เคยซื้อกระเช้าไปมอบให้ใครเลย

อย่างถุงน่องถุงเท้าที่น้องๆ เอามาขอแลกทุกปี ผมก็ประเมินราคาไม่ได้ว่าเท่าไหร่ เพราะเป็นถุงน่องถุงเท้าของคุณสุภาพสตรี ผมได้มาก็ไม่ได้ใช้เอง จะมีสาวๆ มาขอไปใช้ นี่ว่ากันเฉพาะของขวัญที่ส่งมาให้ที่ไทยโพสต์นะครับ หนังสือพิมพ์ฉบับอื่นเขาจะได้ของขวัญกันมากน้อยแค่ไหนก็เป็นเรื่องของเขา ได้ยินว่าบางแห่งของขวัญที่นำมาจับสลาก แต่ละชิ้นมีราคาร่วมหมื่นเพื่อให้สมศักดิ์ศรีของหนังสือพิมพ์

แต่ของขวัญหรือจะสู้ความจริงใจได้ เพราะระหว่างสื่อมวลชนกับฝ่ายประชาสัมพันธ์ของหน่วยงานต่างๆ ก็ต้องพึ่งพากันเหมือนน้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่า ถ้าสื่อมวลชนคิดว่าเป็นฝ่ายเสียเปรียบ ที่ถูกฝากข่าวตลอดทั้งปีได้ของขวัญแค่ปีละชิ้นเดียว คนที่คิดแบบนี้ก็คงจะไม่สบายใจ แต่ถ้าคิดว่าได้ข่าวมาลงฟรีๆ ตลอดทั้งปี แถมยังได้ของขวัญมาให้อีก คิดอย่างนี้ก็คงไม่เครียด ขอบคุณสำหรับของขวัญทุกชิ้นที่ส่งให้ไทยโพสต์ครับ

สามวา สองศอก

ไม่มีความคิดเห็น: