วันอาทิตย์ที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2553

กวีวิพากษ์
คนหรือควาย
ทุกเช้าที่จูงควายออกไปทุ่ง
ดูพ่อยุ่งการบังคับแสนสับคน
พ่อบอกว่าการสอนควายผิดกับคน
เพราะตัวตน-"คนกับควาย"มิคล้ายกัน
คนต้องแทงจมูกควายเป็นรูร้อย
ใช้เชือกสอยสอดรึงดึงแข็งขัน
เจ็บจมูกถูกตรึงยังดึงดัน
ทั้งที่มันถูกสอนมาครายังเยาว์
ถึงตัวโตคนยังค่อน "โง่เหมือนควาย"
เฆี่ยนด้วยหวายทิ่มแทงแท่งเหล็กเหลา
ยังทะลึ่งดึงดันไม่บรรเทา
เกินจะเกลาให้เข้าใจในคำคน
ไม่เหมือนคนที่รู้ค่าภาษาพูด
ลิ้นการทูตบอกศักดิ์ศรีมีเหตุผล
ยิ่งเล่าเรียนมีวิชาค่าเลิศล้น
รู้ยินยล "ตน"-"ประมาณ"การใดดี
ฉันเกิดมาอายุปูนนี้แล้ว
ผ่านเถื่อนแถวเลี้ยงควายหลายวิถี
ยังสงสัยในคำพ่อเคยก่อชี้
"มนุษย์มีความคิดผิดกับควาย"
ยังเห็นคนในสังคมอุดมปัญญา
มิแผกผิดควายบ้าท่าหลากหลาย
บ้างก็แบกปริญญามามากมาย
แต่ไยคล้ายไม่รู้ว่าหน้าที่คน
เช่น "ผู้แทนฯในสภานิติบัญญัติ"
แต่สันทัดทำบ้าใบ้ไร้เหตุผล
ประพฤติเหมือนไม่รู้ว่าหน้าที่ตน
แสร้งสับสนกลกวนป่วนสภาฯ
บ้างแหกคอกออกไปกร่างข้างถนน
ศักดิ์ศรีตนเหยียบย่ำไปจนไร้ค่า
ตั้งกลุ่มแก๊งผิดกฎหมายหลายมาตรา
ล่วงละเมิดกติกาป่วนบ้านเมือง
ประชาชนคนสามัญนั้นไม่ว่า
เพราะเชื่อตามผู้นำพาพวก "เคี้ยวเอื้อง"
(ที่นำม็อบป่วนกรุงยิ่งรุ่งเรือง
ชีพประทืองกว่าเข้าป่าหาอุดมการณ์)
มาวันนี้โลกก้าวหน้าโลกาภิวัตน์
สารพัดร้อยวิถีที่สื่อสาร
ยังดื้อแพ่งตะแบง "กฎหมาย"คล้ายอันธพาล
ฉันเชื่อหลาน..(ที่แย้ง)ว่า "คนดื้อยิ่งกว่าควาย"!!!
(ชักเชื่อหลาน-ที่ว่า-"คนซื่อบื้อดื้อยิ่งกว่าควาย !!!")

ราตรี ประดับดาว

ไม่มีความคิดเห็น: