วันจันทร์ที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2553

ระเบิดศึก! งานบอล '66 ฮือฮาพาเหรด ขบวนล้อการเมือง ดูภาพชุดจาก Manager Multimedia
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 16 มกราคม 2553 18:35 น.
เปิดศักราชใหม่งานฟุตบอลประเพณีจุฬา-ธรรมศาสตร์ ครั้งที่ 66 ลูกพระเกี้ยว –ลูกแม่โดมขนโชว์ผ่านขบวนพาเหรดสุดสร้างสรรค์ ชูประเด็นสะท้อนสังคมให้มีความ “สมดุล” ตบท้ายฮือฮา ขบวนล้อการเมือง เสียด “แม้ว” ลัดฟ้ามาหารัก “ฮุนเซน” หรือรักในรอยแค้น ส่วน “มาร์ค” ถูกล้อใช้แพนด้า กลบปัญหาโครงการล่ม


วันนี้(16 มค.) งานฟุตบอลประเพณี จุฬาฯ-ธรรมศาสตร์ ครั้งที่ 66 ณ สนามศุภชลาศัยกรีฑาสถาน ได้ฤกษ์แข่งขันสานสัมพันธ์สองมหาวิทยาลัยที่มีมาอย่างยาวนาน โดยบรรยากาศในช่วงเช้า เปิดตัวด้วยความคึกคักกับบรรดาเหล่ากองสันทนาการของทั้งสองมหาวิทยาลัย ในบริเวณหน้าห้างโตคิว มาบุญครอง เพื่อเรียกสีสัน กระตุ้นความคึกคักก่อนเริ่มกิจกรรมอย่างเป็นทางการ เรียกความสนใจจากนิสิตนักศึกษาตลอดจนนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี

จากนั้นเวลา 14.30 น.ขบวนพาเหรดเข้าสู่สนาม เริ่มต้นด้วยขบวนป้ายงานฟุตบอลประเพณี จุฬาฯคฑากร และวงโยธวาทิต ต่อด้วยขบวนธงงานฟุตบอลประเพณีฯ ขบวนเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ขบวนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ตามด้วยขบวนดรัมเมเยอร์ มธ.

ขบวนอัญเชิญธรรมจักรที่มีผู้อัญเชิญเป็นนักศึกษาหญิงชายจำนวน 75 คน เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงจิตวิญญาณความเป็นธรรมศาสตร์ และต่อด้วย ป้ายนามมหาวิทยาลัย ขบวนอัญเชิญพระเกี้ยว ขบวนอัญเชิญถ้วยพระราชทาน

ขบวนอิสระของจุฬาฯ : งานกีฬามหาวิทยาลัย ขบวนสื่อแนวคิดของจุฬาฯ “รับอย่างใส่ใจ ให้อย่างสร้างสรรค์ อยู่ร่วมกันอย่างสมดุล”ขบวนสะท้อนสังคมของจุฬาฯ โดยเปรียบเทียบความสมดุลทั้งทางด้านเศรษฐกิจ เปรียบเทียบค่านิยมของวัยรุ่นกับสินค้าแบรนด์เนม เช่น โทรศัพท์ต้องเป็นไอโฟน หรือแบล็คเบอรี่ความสมดุลด้านพลังงาน การใช้อย่างพอดี ความสมดุลด้านยานพาหนะ และปิดท้ายด้วยความสมดุลด้านการศึกษาในเรื่องราวของ GAT-PAT

และ ขบวนอิสระของธรรมศาสตร์ : สะท้อนเหตุการณ์บ้านเมือง ขบวนสื่อแนวคิดของธรรมศาสตร์ “ยอมรับในความแตกต่าง อยู่ร่วมกันอย่างสมดุล” โชว์ขบวนสะท้อนสถานการณ์ปัจจุบันในสังคมไทย ปีที่ผ่านมา อาทิ เด็กชายไทย เคอิโงะ ตามหาพ่อ เพื่อที่จะมากอดกันเพียงไม่กี่นาที และก็เป็นกระแสครึกโครม ต่างกับเด็กไทยที่ถูกเมิน ให้ใช้ชีวิตอยู่กับอาหารประเภทขยะ ขบวนหลินปิงกับช้างไทย และต่อด้วยขบวนล้อการเมืองของธรรมศาสตร์ ก่อนที่ปิดท้ายด้วยขบวนศิษย์เก่าของสองสถาบัน

จากนั้นตามด้วยไฮไลท์ประจำปีที่หลายคนเฝ้าจับตามอง คือ ขบวนล้อการเมืองของฝั่ง ธรรมศาสตร์
ที่ในปีนี้ฝั่งลูกโดม กลุ่มอิสระล้อการเมืองพาขบวน หุ่น “บารัค โอบาม่า”เหยียบโลกแต่งตัวเลียนแบบฮิปปี้ยุคสันติภาพ โดยมืออีกข้างหนึ่งถือระเบิดกับ เหรียญรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ อีกข้างหนึ่งถือป้ายชูคำว่า Make war not love สื่อสารว่าผู้รักสินติผู้นี้กำลังส่งกองทหาร เข้ายึดครองบ่อน้ำมันโดยอ้างว่า เพื่อรักษาความปลอดภัย ซ้ำยังแทรกแซงทางการเมืองในประเทศเหล่านั้น

หุ่นตัวที่ 2 เป็นหุ่นล้อของ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในท่านอนที่ถูกทับด้วยหุ่นสะท้อนหลากหลายหน้าที่และปัญหาที่รุมเร้า อาทิ ปัญหาปลากระป๋อง ปัญหาโครงการไทยเข้มแข็ง ปัญหามาบตาพุด ปัญหาแบบเรียน ปัญหารถเมล์ จนต้องเปลี่ยนชื่อหุ่นให้ใหม่เป็น “อภิสบ เวทนาจังวะ”และท้ายสุดด้วยคารมเป็นต่อรูปหล่อสุดๆฝั่งกลุ่มอิสระล้อการเมืองก็สะท้อนให้เห็นว่า “มาร์ค”ก็ยังดิ้นรนไปได้ แถมยังใช้ไม้ตาย แพนด้าน้อยที่ช่วยกลบเกลื่อนนโยบายล้มระเนระนาดได้เป็นอย่างดี

หุ่นตัวที่ 3 ชื่อ เอาว่ะ…ต้านรัฐธรรมนูญ เป็นหุ่นล้อเลียนภาพยนตร์เรื่อง Avatar โดยเปรียบ “เนวิน ชิดชอบ”เป็นผุ้รุกรานจากฟากฟ้า ส่วนตัวละครจาก อวตาล หรือ ชาวนาวีนั้น คือปวงประชาที่ปกป้องสิทธิและอำนาจอธิปไตยของตนเอง

หุ่นตัวที่ 4 เป็นหุ่นของทักษิณในร่าง “ไมเคิล แจ๊คสัน” ในชื่อชุดว่า THE KING OF POP (ปอบ)เปรียบโยงกับ ไมเคิล แจ็คสันผู้มีเสียงร้องและท่าเต้นที่เป็นสัญลักษณ์โดดเด่น กับ “ผีปอบหยิบ” ที่มีมือจก ล้วงไส้ ของคนและสัตว์มาเป็นอาหารที่เป็นเโดยยกว่า “นายทักษิณ ชินวัตร”มี ความสามารถส่วนตนที่สามารถนำเอกลักษณ์ของทั้ง "ไมเคิล แจ็คสัน” และ “ผีปอบหยิบ” มารวมกันอย่างแนบเนียนที่สุด


และหุ่นตัวสุดท้าย ปิดฉากด้วยเสียงฮือฮาสุดๆ กับ สองหุ่นที่สื่อแสดงความรักอันเหนียวแน่นของ นายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร และ ฮุนเซน ผู้นำประเทศเพื่อนบ้าน ในการจำลองสถานการณ์การแต่งงานกันอย่างเป็นคู่สมรสโดยกลุ่มอิสระล้อการเมือง

ให้ชื่อชุดนี้ว่า “ เกมรักทักษิโนวา” พร้อมบรรยายความสัมพันธ์อันหวานซึ้งนั้นว่าแฝงด้วยผลประโยชน์ ทั้งเพื่อส่วนรวม ตามที่ทั้งสองกล่าวอ้าง หรือเพียงเพื่อผลประโยชน์ส่วนตน ที่ซ่อนเร้น กัมพูชาจะได้ขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารเป็นมรดกโลกแต่เพียงฝ่ายเดียว

และทักษิณจะได้รับสัมปทานทางธุรกิจบริเวณพื้นที่ทับซ้อนไทย-กัมพูชาอย่างเต็มอัตรา ทั้งสัมปทานก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทย และธุรกิจโทรคมนาคมที่ลงทุนในกัมพูชา แต่จะเป็นเช่นไรจึงให้สังคมคอยเฝ้ามองบทสรุปของการลัดฟ้ามาหารัก ของอดีตนายกฯว่าจะเป็นรักหวานใส หรือ “รอยรักในรอยแค้น”แสนปวดร้าว

ส่วนทางด้านสแตนด์ของทาง จุฬาฯและธรรมศาสตร์ ทั้งสองฝั่งต่างก็มีทีมแปรอักษรและกองเชียร์ขึ้นไปนั่งเต็มไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยทางจุฬาฯนั้นเป็นฝั่งที่มีสแตนด์เต็มก่อน ในขณะที่ทางมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ตามมาติดๆแต่เป็นผู้แปรอักษรก่อนในขณะที่เหล่ากองเชียร์กำลังทยอยขึ้น


ทั้งนี้ เมื่อเวลา 16.45 น.นักกีฬาฟุตบอลจากทั้งสองมหาวิทยาลัยเริ่มต้นลงสนามเพื่อทำการแข่งขันฟุตบอลประเพณีต่อไป


ไม่มีความคิดเห็น: