วันจันทร์ที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2553


wongpromdej
MAIN | STUDENT | TEACHER | PARENT
สมัครสมาชิก | ลืม Password | ติดต่อเรา | แบบสอบถาม
ECO-Car รถประหยัดพลังงาน

ในสภาวะที่ราคาน้ำมันมีแนวโน้มการไต่ระดับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องส่งผลให้ผู้ผลิตในวงการอุตสาหกรรมยานยนต์ต่างพากันคิดค้นและพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตรถยนต์ เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภค แม้ว่าเทคโนโลยีหลายๆ อย่างจะยังไม่สามารถผลิตเพื่อจำหน่ายอย่างแพร่หลายได้จริง ณ ขณะนี้ เช่น รถยนต์พลังงานไฟฟ้า แต่ดูเหมือนว่ารัฐบาลไทยก็ได้เล็งเห็นปัญหานี้ล่วงหน้า จึงได้กำหนดโครงการ อีโค่ คาร์ Eco-Car เมื่อหลายปีก่อน โดยได้กำหนดคุณสมบัติของรถอีโค่ คาร์ ที่นอกจากประหยัดน้ำมันแล้วยังช่วยลดปัญหามลพิษในอากาศได้ในระดับที่ยังไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประเทศอีกด้วย

รถยนต์ประหยัดพลังงานตามมาตรฐานสากล ชื่อโครงการอย่างเป็นทางการของโครงการที่ถูกเรียกว่า อีโค่ คาร์ มาตลอดระยะเวลา 4-5 ปีที่ผ่านมา เป็นโครงการที่จะทำให้เมืองไทยมีรถยนต์รุ่นใหม่ที่ผลิตในประเทศไทย ที่มีขนาดกะทัดรัด แต่จะถูกประกอบขึ้นภายใต้เทคโนโลยีที่ทันสมัยเพื่อตอบโจทย์ด้านประหยัดน้ำมัน รักษาสิ่งแวดล้อมและปลอดภัยได้มาตรฐานตามเกณฑ์ของคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจยุโรปแห่งสหประชาชาติ (UNECE) ซึ่งเป็นที่ยอมรับทั่วโลก ซึ่งในอีกไม่นานเราจะได้สำผัส เพราะค่ายรถนิสสันได้ออกมายืนยันโครงการ และน่าจะเป็นค่ายรถยนต์ค่ายแรกที่มาบุกเบิกเปิดตลาดรถยนต์ Eco-Car ในประเทศไทยและอาจจะเป็นที่แรกในโลก นับเป็นการปลุกกระแสความนิยมรถยนต์ประหยัดพลังงานให้กับผู้บริโภคอีกด้วย

ปัจจุบันมีผู้ประกอบการที่ได้รับการอนุมัติการส่งเสริมการลงทุนให้ดำเนินโครงการ Eco-Car จำนวน 6 ราย มีกำลังการผลิตรวม 685,000 คัน โดยส่วนใหญ่เป็นการผลิตเพื่อการส่งออกไปจำหน่ายยังประเทศต่างๆ ทั่วโลก

ผู้ประกอบการ ECO-Car


รถยนต์ ECO-Car ถูกกำหนดรูปแบบขึ้นภายใต้แนวคิดที่สำคัญคือ

  1. คล่องตัว : เป็นรถยนต์ขนาดเล็กที่ใช้งานได้สะดวกในพื้นที่จำกัด มีขนาดเครื่องยนต์ไม่เกิน 1,300 cc สำหรับเครื่องยนต์เบนซิน และ 1,400 cc สำหรับเครื่องยนต์ดีเซล
  2. สะอาด : เป็นรถยนต์ที่ก่อให้เกิดมลพิษต่ำ โดยผ่านตามเกณฑ์มาตรฐาน UNECE (Directive 982-/69/EC) หรือ EURO 4 เป็นอย่างน้อย ซึ่งมาตรฐานนี้ได้บังคับใช้ในสหภาพยุโรปปี พ.ศ.2549 และในประเทศไทยมีแผนที่จะนำมาบังคับใช้ในปี พ.ศ.2555 นอกจากนี้ ยังได้กำหนดให้ต้องมีปริมาณการระบายก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ซึ่งเป็นก๊าซเรือนกระจกไม่เกิน 120 กรัม/กิโลเมตร
  3. ประหยัด : เป็นรถยนต์ที่มีอัตราการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเพียง 5 ลิตร/100 กิโลเมตร (20 กิโลเมตร/ลิตร) หรือดีกว่า
  4. ปลอดภัย : เป็นรถยนต์ที่เป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยของ UNECE ที่สหภาพยุโรปบังคับใช้ในปัจจุบัน (ECE-R 32 Rear-end collision และ ECE-R 33 Head-on collision) หรือดีกว่า
แม้ว่าตอนนี้เรายังไม่เห็นหน้าตาของเจ้ารถอีโค่ คาร์ กันชัดๆ แต่ในเมื่อค่ายรถสัญชาติญี่ปุ่นออกมายืนยันเป็นมั่นว่า เร็วๆ นี้ จะออกมาจำหน่ายในประเทศไทยแน่นอน และรถยนต์คันนี้ก็จะมีคุณสมบัติตามเงื่อนไขทุกประการที่คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) กำหนด มันก็คือสัญญาณที่ดี สำหรับผู้มองหารถประหยัดน้ำมัน และช่วยสิ่งแวดล้อมได้ด้วย และราคาก็น่าจะอยู่ในระดับคุ้มค่าน่าสนใจ



ที่มาข้อมูล : http://formula1.sanook.com
http://www.green.in.th
http://www.pcd.go.th

16 มกราคม วันครูแห่งชาติ
รู้จัก "เล็บ" ดีหรือยัง ?
ECO-Car รถประหยัดพลังงาน
วันเด็กแห่งชาติ
ปวดศีรษะ อาการที่เป็นๆ หายๆ
ยางลบทำมาจากอะไร
ยาใส่แผล มีกี่แบบ ใช้อย่างไร
กระดาษห่อของขวัญ
เสียงดัง : อันตรายที่มองไม่เห็น
สมุนไพรไม่ปลอดภัยเสมอไป
© 2000 - 2010 www.myfirstbrain.com All Rights Reserved Thailand Web Stat

ไม่มีความคิดเห็น: