วันอังคารที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2553

สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 30

ตำนานปลากัดไทย โดย รศ. ดร. ยนต์ มุสิก



การเลี้ยงปลากัดของคนไทย

การกัดปลานับเป็นเกมกีฬาที่นิยมกันในหมู่คนไทยมาเป็นเวลานาน อันที่จริงแล้วปลาที่ใช้ในเกมกีฬาการกัดปลาของชาวไทยนั้น นอกจากปลากัดแล้ว ยังมีปลาอีก ๒ ชนิดที่นำมากัดแข่งขันกัน คือ ปลาหัวตะกั่ว และปลาเข็ม แต่ไม่แพร่หลายและเป็นที่นิยมเท่าปลากัด ทั้งนี้เนื่องจากปลากัดนอกจากจะมีลีลาการต่อสู้ที่เร้าใจและอดทนแล้วยังเป็นปลาที่สวยงาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเวลาที่พองตัวเพื่อต่อสู้ ในระยะแรกๆ ปลากัดที่แข่งขันเป็นปลาที่จับมาจากแหล่งน้ำธรรมชาติ ต่อมาจึงได้เริ่มมีการนำปลากัดมาเลี้ยงเพื่อใช้ในการกัดแข่งขัน และเริ่มมีการผสมพันธุ์เพาะเลี้ยงปลากัด เพื่อให้ได้ปลาที่อดทน กัดเก่ง สีสวยงาม ซึ่งได้เป็นที่นิยมกันอย่างกว้างขวาง หลังจากนั้นก็มีการผสมพันธุ์ปลากัดให้เป็นปลาสวยงาม และเป็นปลาสวยงามชนิดแรกที่คนไทยนิยมเลี้ยง การเพาะเลี้ยงปลากัดจึงแบ่งออกเป็น ๒ กลุ่มใหญ่ๆ กลุ่มหนึ่งเป็นการเพาะเลี้ยงปลากัดเพื่อเอาไว้กัดแข่งขันเป็นการกีฬา หรือการพนัน และอีกกลุ่มหนึ่งเป็นการเพาะเลี้ยงปลากัดเพื่อเป็นปลาสวยงาม

ในการเพาะเลี้ยงปลากัดเพื่อเอาไว้กัดแข่งขัน จะเป็นการพัฒนาสายพันธุ์ของปลากัดครีบสั้น หรือปลาลูกหม้อ เป็นหลัก เพื่อให้ได้ปลาที่กัดเก่ง อดทน และมีขนาดใหญ่ ในระยะหลังๆ ได้มีการนำปลากัดพื้นเมืองในภาคใต้มาผสมบ้าง เพื่อสร้างลูกผสมที่กัดเก่ง และมีการใช้กลวิธีการหมักปลาด้วยสมุนไพร ใบไม้ ว่าน ดินจอมปลวก และอื่นๆ เพื่อช่วยเคลือบเกล็ดปลา ซึ่งเชื่อกันว่าจะทำให้เกล็ดแข็งกัดเข้าได้ยาก ควบคู่ไปกับการคัดเลือกพันธุ์

ส่วนการเพาะเลี้ยงปลากัดเพื่อเป็นปลาสวยงาม นอกจากจะพัฒนาให้ได้สีที่สวยงาม และรูปแบบใหม่ๆ แล้ว ก็ได้มีการพัฒนาสร้างสายพันธุ์ปลากัดครีบยาว ที่เรียกกันทั่วไปว่า ปลากัดจีน ซึ่งมีครีบยาวใหญ่สวยงาม ในระยะหลังนี้ได้มีการพัฒนารูปทรงของครีบแบบต่างๆ และมีการพัฒนาปลากัดครีบสั้นให้เป็นปลาสวยงาม โดยพัฒนาสีสันให้สวยขึ้น และพัฒนาปลาลูกหม้อให้มีสีใหม่ๆ จนในที่สุดก็มีการผสมระหว่างปลากัดครีบสั้นกับปลากัดครีบยาว เพื่อสร้างลักษณะที่สวยงาม

เมื่อก่อนนั้น นักเพาะพันธุ์ปลากัดในประเทศไทยสนใจเฉพาะการพัฒนาสายพันธุ์ปลากัดลูกหม้อให้กัดเก่งเพื่อการกัดแข่งขันเป็นหลัก ปลากัดครีบยาวหรือปลากัดจีนจึงขาดการปรับปรุงพันธุ์โดยสิ้นเชิง โดยผู้เพาะพันธุ์มุ่งจะผลิตให้ได้จำนวนมากๆ เพื่อส่งขายโดยไม่คำนึงถึงคุณภาพ จนในช่วงหนึ่งปลากัดครีบยาวจากประเทศไทยถูกจัดอยู่ในระดับคุณภาพค่อนข้างต่ำ ในพ.ศ. ๒๕๓๘ คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จึงได้เริ่มดำเนินการเพื่อพัฒนาฟื้นฟูสายพันธุ์ปลากัดในเมืองไทย โดยได้เริ่มจัดสัมมนาให้ความรู้เกี่ยวกับการปรับปรุงสายพันธุ์และมาตรฐานปลากัดในระดับสากล และได้จัดประกวดปลากัดขึ้นครั้งแรกในงานวันเกษตรแห่งชาติ ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จากนั้นมาก็มีการจัดประกวดต่อเนื่องกันมาทุกปี โดยชมรมและองค์กรต่างๆ ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ส่งผลให้เกิดการพัฒนาสายพันธุ์ ทั้งปลากัดลูกหม้อและปลากัดจีน เพื่อเป็นปลาสวยงามกันอย่างเต็มที่ ทำให้ได้ปลากัดลูกหม้อที่มีสีสันสวยงาม ทั้งสีเดียว สีผสม และลวดลายต่างๆ จนในปัจจุบันรูปแบบสีสันของปลากัดลูกหม้อได้พัฒนาไปอย่างมากมายในทุกโทนสี และกลายเป็นปลาสวยงามอีกประเภทหนึ่งซึ่งเป็นที่นิยมเลี้ยงกันอย่างแพร่หลาย ประชาชนจำนวนมากหันมาประกอบอาชีพเพาะเลี้ยงปลากัด ทั้งปลากัดสำหรับกัดแข่งขันและปลากัดสวยงาม จนทำให้ปลากัดมีความสวยงาม กลายเป็นสินค้าส่งออกอย่างหนึ่งของประเทศไทย ปัจจุบันแหล่งเพาะเลี้ยงปลากัดที่สำคัญของประเทศไทยอยู่ที่จังหวัดนครปฐม กรุงเทพฯ ราชบุรี เพชรบุรี และนครศรีธรรมราช




ศัพท์และสำนวนที่เกียวกับปลากัด
ปลากัดมีอิทธิพลต่อสังคมไทยในสมัยก่อนมาก ผู้ที่ชอบการกัดปลา เรียกว่า “นักเลงปลา” โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านศัพท์และสำนวนที่ใช้กัน เช่น “กระโดง” หมายถึงครีบหลัง “ตะเกียบ” หรือ “ทวน” หมายถึงครีบท้อง “ชายน้ำ” หมายถึง ปลายครีบก้น “เขม่า” หมายถึง ลักษณะปนเปื้อนของสีที่คล้ายรอยประอยู่ภายนอก “ไล่น้ำ” หมายถึงการเอาปลาปล่อยลงในน้ำวนให้ปลาออกกำลังว่ายทวนน้ำ มักทำในอ่างปากกว้าง แล้วเอามือกวนให้น้ำวนก่อนปล่อยปลาลงไป “ปลาป่า” หรือ “ปลาลูกทุ่ง” หมายถึง ปลากัดที่อยู่ในแหล่งธรรมชาติ ในท้องนา หนอง คลอง บึง “ลูกสังกะสี” หมายถึง ลูกผสมระหว่างปลาลูกหม้อกับปลาป่า “ลูกแท้” หมายถึง ลูกปลากัดที่เกิดจากการผสมระหว่างพ่อแม่ที่เกิดในครอกเดียวกัน และ “ลูกสับ” หมายถึงลูกปลากัดที่เกิดจากการผสมระหว่างพ่อแม่ที่เกิดต่างครอกกัน

ภาษาและคำศัพท์ต่างๆ ที่ใช้กันในหมู่นักเลงปลาอีกหลายคำ ได้กลายเป็นคำที่นำมาใช้ในสังคมไทยอย่างแพร่หลาย เช่นคำว่า ลูกหม้อ ซึ่งหมายถึงผู้ที่มีกำเนิดผูกพันอย่างแท้จริง มาจาก “ปลาลูกหม้อ” ที่คัดสายพันธุ์ เลือกสรรลักษณะมาอย่างต่อเนื่อง ลูกไล่ ซึ่งหมายถึงคนที่ไม่สู้คน ถูกข่มอยู่ตลอดเวลา มาจาก “ปลาลูกไล่” ซึ่งเป็นปลากัดที่ไม่ยอมสู้ปลาตัวอื่น และถูกนำมาใช้ในการซ้อมปลาที่จะลงแข่งขันให้ไล่ออกกำลัง ก่อหวอด หมายถึงการคิดกระทำมิดีมิร้าย นำมาจากอาการเตรียมการของปลากัดตัวผู้ที่วางแผนจะผสมพันธุ์ปลาตัวเมีย โดยเตรียมก่อหวอดสร้างรังไว้ก่อน ถอดสี ซึ่งหมายถึงอาการตกใจ ไม่สู้ ยอมแพ้ มาจากอาการที่สีเข้มของปลากัดจะจางลงเมื่อไม่สู้หรือยอมแพ้ และติดบิด ซึ่งนำมาใช้ในภาษามวยที่นักมวยต่อยแล้วกอดกันแน่น ก็มาจากอาการการต่อสู้ของปลากัดที่เมื่อตัวหนึ่งพุ่งเข้ามากัดอย่างแรง และอีกตัวหนึ่งประสานปากเข้ากัดรับ คาบติดกันแน่นบิดกัดติดกันอยู่ช่วงหนึ่งก่อนจะปล่อยหลุด คำเหล่านี้ในปัจจุบันได้นำมาใช้ในชีวิตประจำวันจนเป็นคำธรรมดา ซึ่งคนส่วนใหญ่จะไม่ทราบว่าแท้จริงแล้วเป็นคำศัพท์ในวงการนักเลงปลากัด




ปลากัดไทยในต่างประเทศ
ได้มีการนำปลากัดไทยไปเลี้ยงเป็นปลาสวยงามในบางประเทศของทวีปยุโรปตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๑๗ และสหรัฐอเมริกานำเข้าไปเลี้ยงใน พ.ศ. ๒๔๖๐ จากนั้นมาได้มีการพัฒนาสายพันธุ์ปลากัดอย่างต่อเนื่อง ทั้งในทวีปยุโรปและสหรัฐอเมริกา โดยในระยะแรกๆ จะเน้นการผสมปลากัดให้ได้สีใหม่ๆ และได้รูปแบบสีที่สมบูรณ์ ในช่วง พ.ศ. ๒๔๗๐ - ๒๔๘๐ ผู้เลี้ยงมักนิยมปลากัดสีอ่อนหรือสีเผือก โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เรียกว่า ปลากัดเขมร ซึ่งมีลำตัวสีอ่อน และมีครีบสีแดง ต่อมาประมาณพ.ศ. ๒๔๙๐ นักเพาะเลี้ยงมุ่งที่จะเพาะปลากัดสีดำ และทำได้เป็นผลสำเร็จ ระยะต่อมาจึงได้เริ่มมีความสนใจที่จะพัฒนาลักษณะของรูปทรงลำตัวและครีบ โดยใน พ.ศ. ๒๕๐๗ นักเพาะเลี้ยงปลากัดในสหรัฐอเมริกาสามารถผลิตสายพันธุ์ปลากัดลิบบี (Libby) ซึ่งมีหางใหญ่มน กว้างเป็น ๓ เท่าของลำตัว เช่นเดียวกับครีบก้นและครีบหลัง ต่อมาในระหว่าง พ.ศ. ๒๕๑๐ - ๒๕๒๐ ก็สามารถผลิตปลากัดหางสามเหลี่ยมให้ชื่อว่า เดลตา (Delta) ซึ่งเป็นปลากัดที่มีครีบหางแผ่ทำมุม ๔๕ - ๖๐ องศากับโคนหาง รวมทั้งปลาที่มีหางสามเหลี่ยมขนาดใหญ่ ที่เรียกว่า ซูเปอร์เดลตา (Super delta) ด้วย ประมาณ พ.ศ. ๒๕๓๐ ในทวีปยุโรปได้มีผู้สามารถผสมพันธุ์ปลากัดที่มีหางแผ่เป็นรูปครึ่งวงกลม ที่เรียกว่า ฮาล์ฟมูนเดลตา (Halfmoon delta) หรือหางพระจันทร์ครึ่งซีกได้ หลังจากนั้นใน พ.ศ. ๒๕๔๓ นักเพาะเลี้ยงปลากัดชาวสิงคโปร์ได้พัฒนาปลากัดสายพันธุ์ใหม่ที่มีหางจักเป็นหนามเหมือนมงกุฎ ที่เรียกว่า คราวน์เทล (Crown tail) หรือหางมงกุฎ ซึ่งเป็นปลากัดที่นิยมกันมากสายพันธุ์หนึ่งในปัจจุบัน ในสหรัฐอเมริกาและประเทศต่างๆ ทั่วโลกมีผู้นิยมเลี้ยงปลากัด ทั้งที่เลี้ยงเป็นงานอดิเรกและเลี้ยงเป็นอาชีพเป็นจำนวนมาก มีการจัดตั้งเป็นชมรมและสมาคมต่างๆ รวมทั้งมีการจัดการประกวดแข่งขันกันทั้งในระดับท้องถิ่น ระดับชาติ และระดับนานาชาติ



บรรณานุกรม
นายยนต์ มุสิก

ไม่มีความคิดเห็น: