| คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น |
| | |  | จีเอ็ม (General Motors) ยักษ์ใหญ่วงการยานยนต์โลกเปิดตัวต้นแบบรถแห่งอนาคตกลางเมืองเซี่ยงไฮ้เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ฮือฮาด้วยคอนเซ็ปต์รถไฟฟ้าที่สามารถสื่อสารกับรถรอบข้างได้ มาในรูปยานยนต์ 2 ล้อที่สามารถตั้งโปรแกรมขับเคลื่อนด้วยตัวเอง ใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนเป็นตัวให้พลังงานระบบไฟฟ้าภายใน พร้อมกับเปิดช่องทางให้ผู้โดยสาร 2 คนในรถเชื่อมต่อกับเครือข่ายสังคมแสนโปรดได้สะดวกสบาย
ยานยนต์ต้นแบบนี้ถูกตั้งชื่อว่า Electric Networked-Vehicle หรือ EN-V จีเอ็มระบุว่าสามารถแล่นด้วยความเร็วสูงสุด 25 ไมล์ต่อชั่วโมง ใช้เทคโนโลยี Global Positioning System (GPS) ซึ่งจะทำให้ผู้โดยสารสามารถใช้ประโยชน์จากโปรแกรมอ้างอิงตำแหน่งบนพื้นโลกได้ มีระบบสื่อสารระหว่างยานยนต์หรือ vehicle-to-vehicle เพื่อเลือกแล่นบนเส้นทางที่การจราจรปลอดโปร่งที่สุด ที่สำคัญคือผู้โดยสารสามารถตั้งโปรแกรมให้ยานยนต์แล่นอัตโนมัติ หรือเลือกจะควบคุมรถด้วยตัวเองก็ได้
จีเอ็มตั้งเป้าว่า EN-V จะเริ่มแพร่หลายบนถนนในเมืองใหญ่ช่วงปี 2030 หรืออีก 20 ปีข้างหน้า
"EN-V ปฏิวัติวงการยานยนต์ด้วยการสร้างดีเอ็นเอขึ้นมาใหม่ซึ่งควบรวมระหว่างการใช้พลังงานไฟฟ้าและความสามารถในการเชื่อมต่อ สิ่งนี้จะนำไปสู่แนวคิดการจราจรในเมืองยุคหน้า ซึ่งการขับขี่จะปราศจากอุบัติเหตุ หรือมลภาวะ แต่จะเพิ่มความสนุกสนานและการเป็นแฟชั่นมากกว่าเดิม" เควิน เวลล์ ประธานจีเอ็มกลุ่มประเทศจีน กล่าว
จีเอ็มระบุว่า EN-V นี้ถูกพัฒนาขึ้นบนความร่วมมือกับเซกเวย์ (Segway) ผู้ผลิตอุปกรณ์เคลื่อนที่ส่วนบุคคลที่นิยมใช้งานในอาคารสำนักงานหรืองานแสดงสินค้าที่จัดในพื้นที่ขนาดใหญ่ทั้งในเมืองไทยและต่างประเทศ โดยเซกเวย์มีส่วนสำคัญในการพัฒนาระบบขับเคลื่อนและระบบสร้างสมดุลระหว่าง 2 ล้อของ EN-V ซึ่งเป็นจุดติดตั้งแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนไว้อย่างแนบเนียน
จีเอ็มยืนยันว่า EN-V สามารถชาร์จพลังงานกับปลั๊กไฟบ้านปกติได้ และสามารถแล่นได้ไกล 25 ไมล์ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง
จุดสำคัญของ EN-V คือขนาดที่เล็กกว่ารถยนต์ปกติทั่วไป โดย EN-V มีความสูง 5 ฟุตน้ำหนัก 1,100 ปอนด์ (500 กิโลกรัม) เทียบกับความสูงมาตรฐานของรถยนต์ 15 ฟุต น้ำหนัก 3,300 ปอนด์ (ราว 1,500 กิโลกรัม) ทั้งหมดนี้จีเอ็มคำนวณว่า ที่จอดรถในโลกปัจจุบัน 1 คัน จะสามารถจอดยานยนต์แห่งอนาคต EN-V ได้ถึง 5 คัน
จีเอ็มยังไม่เปิดเผยแผนการผลิตเชิงพาณิชย์ในขณะนี้
Company Related Links :
General Motors
| | |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น