83ชาติเห็นชอบ"พุทธอุทยาน" ชาวพุทธหนุนใช้พื้นที่"ป่าน้ำตกเขาอีโต้"ผุดศูนย์กลางศาสนาโลก

นายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยว่า จากการประชุมชาวพุทธนานาชาติ เนื่องในวันวิสาขบูชา วันสำคัญสากลของโลก ประจำปี 2553 ซึ่งมีผู้นำชาวพุทธจาก 83 ประเทศทั่วโลก มาประชุมร่วมกัน ที่ศูนย์ประชุมสหประชาชาติ ถ.ราชดำเนินนอก โดยมีการร่วมกันประกาศปฏิญญากรุงเทพมหานคร 2010/2553 เห็นชอบให้ดำเนินการโครงการพุทธอุทยานโลก ที่จะจัดสร้างขึ้น ที่เขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าน้ำตกเขาอีโต้ จ.ปราจีนบุรี เป็นศูนย์กลางพระพุทธศาสนาโลกด้วย สำหรับโครงการจัดตั้งพุทธอุทยานโลก เป็นการดำเนินงานตามมติที่ประชุมชาวพุทธนานาชาติ เมื่อปี 2548 ที่เห็นชอบให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางพุทธศาสนา โดยให้จัดหาพื้นที่ที่เหมาะสมในการสร้างพุทธสถานอันเป็นจุดศูนย์กลางของชาวโลกที่นับถือศาสนาพุทธ โดยให้รวมสถานที่ที่ทำให้เกิดความรู้สึกระลึกถึงพระสัมมาสัมพุทธเจ้า คือ สังเวชนียสถาน 4 ตำบล รวมทั้งให้มีพุทธสถานครอบคลุมศาสนาพุทธทุกนิกายทั่วโลกไว้ จากเดิมได้พิจารณาพื้นที่พุทธมณฑล แต่เนื่องจากมีพื้นที่น้อยเกินไป จึงต้องมองหาสถานที่ใหม่ และจากการหารือกับผู้ที่เกี่ยวข้องเห็นว่า เขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าน้ำตกเขาอีโต้ ต.เนินยายหอม อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี เป็นพื้นที่ที่เหมะสม ทั้งนี้ เพราะมีความร่มรื่น มีแหล่งน้ำ โดยกรมป่าไม้ได้ดำเนินการสำรวจพื้นที่พบว่ามีพื้นที่ถึง 13,593 ไร่ มีพื้นที่มากพอที่จะดำเนินการ นอกจากนี้ได้มีการจดทะเบียนและจัดตั้ง"มูลนิธิพุทธอุทยานโลก" เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2553 เพื่อเป็นหน่วยงานในการดำเนินการและบริหารจัดการ ซึ่งเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 20 เมษายน 2553 และต่อมาวันที่ 21 เมษายน 2553 นายสมชัย เพียรสถาพร อธิบดีกรมป่าไม้ และนายพยุง นพสุวรรณ ประธานกรรมการมูลนิธิพุทธอุทยานโลก ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือการจัดตั้งพุทธอุทยานโลก เพื่อเป็นพื้นที่ในการพิทักษ์ อนุรักษ์ รักษา ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตลอดจนเพื่อดำเนินการส่งเสริมและเผยแพร่พระพุทธศาสนา ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ด้วยศรัทธาและเจตนารมณ์อันแรงกล้าให้พุทธอุทยานโลก เป็นแหล่ง"ธรรมะเพื่อธรรมชาติ"สืบไป