ท่ามกลางสังคมป่าเต็งรังผสมผลัดใบป่าดิบแล้ง ไม้หลากหลายชนิดลำต้นตั้งตรงสูงบ้างต่ำบ้าง เรื่อนยอดแตกกิ่งยักย้ายแต่ลักษณะโดยรวมของเรือนยอดแผ่ขนานพื้นดินบ่งบอกถึงลักษณะต้นไม้ที่เติบโตบนพื้นที่ป่าที่เบื้องล่างเป็นหินแข็ง สร้างความแปลกตาแก่ผู้พบเห็น แต่สิ่งที่เป็นที่เป็นนางเอก ดึงดูดนักท่องเที่ยวนั้นอยู่บนพื้นป่าเบื่องล่างนี้ ผืนทุ่งเขียวขจีของไผ่เพ็ก เปราะป่า แซมด้วยกระเจียวดอกสีชมพูสว่างสดใสท่ามกลางสายหมอกและแสงแดดอ่อนๆยามเช้าที่ทอดสลับลงมา สวยหวานดังสรวงสวรรค์ในจินตนาการ สมกับอีกชื่อของทุ่งดอกกระเจียว คือ “ทุ่งบัวสวรรค์” ที่จะบานในช่วงเข้าพรรษา เพื่อเป็นการบูชาเทพ ซึ่งเดิมเรียกว่า “ป่าเทพสถิตย์”
ความตั้งใจที่จะเดินทางแบบไปเช้าเย็นกลับเริ่มต้นตอนมากกว่าเช้าตรู่คือออกจากบ้านตอนตี 3 พร้อมด้วยแผนที่ที่ปริ้นต์มาจากกลูเกิ้ลแม็พที่บอกระยะทางทุกช่วงที่ถึงจุดเปลี่ยนเส้นทางสำคัญ จากบ้านย่านประเวศ กรุงเทพฯ ขับไปตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1 ผ่านจังหวัดสระบุรีไปยังสามแยกพุแค เลี้ยวขวาไปตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 21 จากนั้นเลี้ยวขวาที่ถนนคชเสนีย์เส้นทาง 2129 ไปยังลำนารายณ์ และเลี้ยวซ้ายที่ถนนสุระนารายณ์ไปตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 205 เส้นทางลำนารายณ์-ลำสนธิ-เทพสถิต-หนองบัวโคก-นครราชสีมา เดินทางจากบ้านลำ นารายณ์ประมาณ 47 กิโลเมตร ก่อนถึงที่ทำการอำเภอเทพสถิตประมาณ 1 กิโลเมตร จะมีแยกเลี้ยวซ้ายไปอำเภอหนองบัวระเหว ตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2354 ระยะทางประมาณ 15 กิโลเมตร ถึงทางแยกซ้ายมือเข้าบ้านไร่ ขับต่ออีกประมาณ 14 กิโลเมตร ก็จะถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติป่าหินงามประมาณ 7 โมงเช้า ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมงโดยขับแบบสบายๆ หรือหากไม่อยากเหนื่อนกับการเดินทางตอนเช้ามืดมากเกินไปก็สามารถไปหารีสอร์ทแถวนั้นพักหนึ่งคืนแล้วเช้าค่อยออกไปเดินเที่ยวสูดอากาศบริสุทธิ์ที่ทุ่งดอกกระเจียวแบบไม่เหน็ดเหนื่อยกับการขับรถก็ได้ครับ
เมื่อเสียค่าธรรมเนียมที่ด่านของอุทยานฯแล้วเราสามารถขับรถขึ้นไปจนถึงทุ่งดอกกระเจียวซึ่งทางอุทยานฯได้ทำสะพานเป็นทางเดินให้เราเดินลึกเข้าไปในทุ่งฯ ทั่วทั้งผืนให้เราได้ซึมซับบรรยากาศความงดงามของทุ่งสวรรค์ที่โอบล้อมเราอย่างใกล้ชิดทุกรายละเอียด เห็นกระทั้งแมลงมุมสร้างรังเพื่อดักจับแมลงระหว่างดอกกระเจียวแต่ละดอกที่กำลังหยอกล้อละอองหมอกและสายลมอ่อนๆในหน้าฝนที่โปรยปรายมาเป็นระยะๆ สลับกับแดดอ่อนๆที่สาดส่องสร้างความสดใสให้เราได้เคลิบเคลิ้มไปกับทุ่งสวรรค์ เดินดื่มดั่มไปจนสุดทุ่งทะลุแนวป่าถึงจุดชมวิวที่สูงที่สุดที่เรียกกันว่า “สุดแผ่นดิน” ซึ่งเกิดจากการยกตัวของพื้น ที่เป็นที่ราบสูงภาคอีสาน เป็นรอยต่อระหว่างภาคอีสานกับภาคกลาง มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 846 เมตร สามารถเห็นทิวทัศน์ของสันเขาพังเหยและพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าซับลังกาซึ่งเป็นแหล่งต้นน้ำของลุ่มน้ำชีและแม่น้ำป่าสัก
แวะสักนิดก่อนกลับ “ลานหินงาม” เป็นหินธรรมชาติที่มีรูปลักษณะสวยงามต่างๆ กัน เช่น รูปช้าง รูปตะปู รูปเรด้า รูปแม่ไก่ รูปถ้วยฟีฟ่า แปลกตาน่าประทับใจยิ่งนัก ซึ่งลักษณะทางธรณีวิทยาเป็นหินช่วงยุดจูแลสสิกและไทนแอสสิก ทำให้เรารู้สึกว่ากำลังอยู่ในโลกดึกดำบรรพ์ ทั้งหมดนี้ใช้เวลาประมาณไม่เกินเที่ยงวัน ถ้าขับรถกลับ กทม.ก็จะถึงประมาณ 4 โมงเย็น กับทริปเที่ยวทุ่งดอกกระเจียวแบบไปเช้าเย็นกลับ
-------------------------------------- “หยิบหมอก หยอกดอกกระเจียว” งานเทศกาลท่องเที่ยวดอกกระเจียวงาม จังหวัดชัยภูมิ ประจำปี 2553 ในระหว่างวันที่ 1 มิถุนายน – 31 สิงหาคม 2553 ณ อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม อำเภอเทพสถิต จังหวัดชัยภูมิ อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม โทร.0-4489-0105 | 
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น