วันพุธที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

บทบรรณาธิการ
ระวังประวัติศาสตร์ซ้ำรอย


สัมพันธภาพระหว่างไทยกับกัมพูชายังคงอยู่ในสภาวะที่เกิดการขัดแย้งกันอย่างต่อเนื่องตลอดมานับตั้งแต่สมัยรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวชเรื่อยมาจนถึงสมัยรัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะถึงขั้นที่สมเด็จอัครมหาเดโชฮุนเซ็นนายกรัฐมนตรีของกัมพูชาได้ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวต่างประเทศกล่าวโจมตีนายกรัฐมนตรีไทยอย่างรุนแรงหลายครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์นี้

ฮุนเซ็นซึ่งทราบกันเป็นอย่างดีว่ามีความสนิทสนมกับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรอดีตนายกรัฐมนตรี ของไทยผู้ที่หลบหนีคดีอาญาได้เรียกร้องสิทธิการเป็นเจ้าของกลุ่มปราสาทตาเมือนธมซึ่งตั้งอยู่ที่หมู่18 บ้านหนองคันนาสามัคคี ตำบลตาเมียงอำเภอพนมดงรักจังหวัดสุรินทร์อีกแห่งถึงขั้นมีข่าวแพร่ในกัมพูชาว่ารัฐบาลเขมรอาจจะยื่นฟ้องต่อศาลโลกเพื่อทวงสิทธิเช่นเดียวกับกรณีของปราสาทพระวิหารที่จังหวัดศรีสะเกษ

คำว่าตาเมือนธมนั้นเป็นภาษาเขมรแปลว่าตาไก่ใหญ่เป็นปราสาทหินทรายโบราณรวม 3 หลังที่มีขนาดใหญ่ที่ยังมีสภาพดีอยู่ในภูมิภาคอินโดจีน ปราสาท 3 หลังตั้งเรียงกันจากใหญ่ไปหาเล็กคือปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาเมือนโต๊ดและปราสาทตาเมือน กลุ่มปราสาทตั้งห่างจากชายแดนไทยกับกัมพูชาประมาณ 100 เมตร

ปราสาทกลุ่มนี้สันนิษฐานว่ากษัตริย์ขอมสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ประทับกลางทางบนทางหลวงโบราณที่เชื่อมต่อระหว่างเมืองพระนครราชธานีของขอมมายังพื้นที่ตอนในของสุวรรณภูมิทั้งหมด นอกจากกลุ่มปราสาทตาเมือนธมแล้วที่หมู่17 บ้านไทยนิยมพัฒนา ตำบลบักไดในอำเภอพนมดังรักยังเป็นที่ตั้งของปราสาทตาควายอีกหลังหนึ่งด้วย

ผู้ที่สร้างกลุ่มปราสาทที่จังหวัดสุรินทร์นี้น่าจะเป็นพระเจ้ายโศวรมันที่ 1 ซึ่งปกครองอาณาจักรขอมระหว่างปีพ.ศ.1470 - 1490 ต่อมาพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ซึ่งครองราชที่เมืองพระนครระหว่างปีพ.ศ.1724 - 1763 ได้เป็นผู้บูรณะกลุ่มปราสาทตาเมือนธมให้เป็นที่พักของกองทัพขอมในการรักษาดินแดนอิศานปุระ

เจ้าหน้าที่กรมศิลปากรของประเทศไทยได้สำรวจพบปราสาท 4 หลังในอำเภอพนมดงรักจังหวัดสุรินทร์คือกลุ่มปราสาทตาเมือนธมและปราสาทตาควายในปีพ.ศ.2478 และได้ขึ้นทะเบียนโบราณสถานในปีพ.ศ.2484

ฝ่ายกัมพูชาซึ่งใช้หลักฐานในการแบ่งเส้นเขตแดนไทยกับกัมพูชาโดยใช้แผนที่จากการปักปันเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชาของฝรั่งเศสเมื่อปีพ.ศ. 2451 ส่วนไทยนั้นได้ยึดหลักแผนที่แบ่งเขตแดนตามแนวสันปันน้ำเลขที่แอล 7017 เป็นหลัก

ความเคลื่อนไหวของฮุนเซ็นที่ดำเนินการอย่างเป็นระบบด้วยความต่อเนื่องอยู่ในขณะนี้ทำให้มีการวิเคราะห์กันว่า รัฐบาลกัมพูชาที่มีฮุนเซ็นเป็นผู้นำอาจจะยื่นเรื่องฟ้องไทยไปยังศาลโลกที่กรุงเฮกเพื่อทวงสิทธิเหนือกลุ่มปราสาทตาเมือนธม เรื่องนี้น่าเป็นห่วงรัฐบาลจะต้องเตรียมต่อสู้คดีในศาลโลกเอาไว้ให้พร้อมเพื่อไม่ให้เกิดประวัติศาสตร์ซ้ำรอยต้องแพ้คดีเหมือนกรณีปราสาทพระวิหารขึ้นมาอีก

ไม่มีความคิดเห็น: