aod98
ข่าวสารที่น่าสนใจ เพื่อความรู้และความบันเทิงเปรียบเสมือนอาหารสมอง
วันอาทิตย์ที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2553
สกู๊ปแนวหน้า
ยุทธการ"3ซ."ปราบเด็กซ่า ป้องซิ่ง-หยุดยา-สกัดเซ็กซ์
"ซิ่ง ซ่า มั่วเซ็กซ์ เสพยา" กลายเป็นพฤติกรรม"เสี่ยงของวัยรุ่นไทย"ในยุคปัจจุบัน แม้ว่าพฤติกรรมเหล่านี้จะไม่ใช่โรคระบาด หรือโรคติดต่อร้ายแรง แต่สามารถส่งผลกระทบจนกลายเป็นปัญหาของสังคมได้ในวงกว้าง ทั้ง การขับรถซิ่งแล้วซ่าสร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่น การก่อเหตุทะเลาะวิวาท มั่วเซ็กซ์ มีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร เปลี่ยนคู่นอนไปเรื่อย รวมถึงการมั่วสุมเสพยา สารเสพติดอื่นๆ ซึ่งเป็นพฤติกรรมเสี่ยงที่มีความเชื่อมโยงกัน
"วัยรุ่น" เป็นวัยที่มีความอ่อนไหวทางอารมณ์ และต้องการความยอมรับจากคนรอบข้างเมื่อเข้ากลุ่มเพื่อนในวัยเดียวกันก็จะเกิดพฤติกรรมเลียนแบบ ซึ่งง่ายต่อการถูกชักจูงให้หลงผิด กระทำพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมและอาจนำไปสู่เหตุการก่ออาชญากรรมในที่สุด เช่น การก่อเหตุคดีฆ่าข่มขืน รุมโทรม คดีเกี่ยวกับชีวิตทรัพย์สิน จนกระทั่งกลายเป็นปัญหาใหญ่ของสังคมซึ่งปัญหาพฤติกรรมเหล่านี้จำเป็นที่จะต้องมีแนวทางแก้ไขอย่างเร่งด่วน
การแก้ไขปัญหาพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ของวัยรุ่น ไม่ได้เป็นหน้าที่ของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งโดยเฉพาะ แต่เป็นหน้าที่ของทุกฝ่ายทุกหน่วยงาน ทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน ที่จะต้องเข้ามามีบทบาทในการป้องกันและแก้ไขปัญหาเหล่านี้ร่วมกัน ในการป้องปราบปรามการกระทำผิดของเด็กและเยาวชนอย่างจริงจัง
นายมานพ วีระอาชากุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี กล่าวว่า เพื่อเอาจริงเอาจังกับการป้องกัน และแก้ไขปัญหาพฤติกรรมเสี่ยงในวัยรุ่น จังหวัดจันทบุรีร่วมมือกับภาคส่วนต่างๆ ทั้งตำรวจภูธรจังหวัด องค์การบริหารส่วนจังหวัด องค์การบริหารส่วนตำบล พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาที่ 1 กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สำนักคุมประพฤติ โรงพยาบาลในจังหวัด สาธารณสุขจังหวัด วัดทุกแห่ง รวมทั้งร้านขาย และซ่อมรถจักรยานยนต์ องค์กรภาคเอกชน และสื่อมวลชนในจังหวัดจันทบุรี และได้นำยุทธศาสตร์หลักของโครงการ TO BE NUMBER ONE มาเป็นเครื่องมือในการดำเนินการ เพื่อจัดการกับปัญหาที่เป็นภัยกำลังคุกคามเยาวชนด้วยแนวคิดที่จะแก้ไข และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเด็ก และเยาวชนอย่างยั่งยืนรวมทั้งป้องกันการก่อกำเนิดของกลุ่มใหม่โดยมุ่งเน้นแก้ไขทั้งจิตใจความคิดทัศนคติ และพัฒนาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมภายนอกด้วยการเข้าใจ การเข้าถึง ซึ่งได้มีการพัฒนาเป็นกรอบแนวคิดหลักเพื่อจะนำมาใช้เป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการออกแบบโครงการต่างๆ
จนกระทั่งเกิดเป็น "โครงการ 3 ซ" หรือ โครงการแก้ไขปัญหาอาชญากรรม และพฤติกรรมไม่เหมาะสมของเด็กและเยาวชน กรณี ซิ่ง ซ่า มั่วเซ็กซ์ เสพยา
"โครงการ 3 ซ" เป็นกิจกรรมภายใต้ภารกิจในการป้องกัน และแก้ไขปัญหายาเสพติดของวัยรุ่นในจังหวัดจันทบุรี ซึ่งเกิดจากแนวคิดที่จะให้เจ้าหน้าที่หน่วยงานภาครัฐ และเอกชนทุกคนที่เข้ามาร่วมดำเนินงานในโครงการเป็นเสมือนเพื่อนกับเด็กและเยาวชน ที่เข้ามาช่วยเหลือพวกเขาในลักษณะเพื่อนช่วยเพื่อน ด้วยความเชื่อที่ว่าเด็กกลุ่มเสี่ยงสามารถพัฒนาได้ด้วยการดูแลช่วยเหลือ ส่งเสริมให้พวกเขาได้ใช้ความกล้า ความแรง ความห้าวที่มีอยู่ในตัวเองในทางที่ถูกต้อง ด้วยการปลูกฝังสำนึกของการดำรงชีวิตอย่างปลอดภัย
โดยเริ่มจากตัวเองก่อน เมื่อพร้อมแล้วจึงเข้าร่วมแก้ไขปัญหา และพิทักษ์ความปลอดภัยให้เด็กและเยาวชนอื่นๆ ด้วยการรับผิดชอบภารกิจในการ ป้องซิ่ง ปราบซ่า หยุดยา สกัดเซ็กซ์ ซึ่งเป็นภารกิจที่ทำด้วยความสมัครใจ ร่วมคิด วางแผน ปฏิบัติร่วมกับตำรวจและส่วนราชการ ภาคีเครือข่ายต่างๆ ในจังหวัด โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อการแก้ไขปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เป็นการป้องกันปราบปรามการกระทำผิดในกลุ่มเด็กและเยาวชน ด้วยหลักการดำเนินงาน คือการเข้าใจ เข้าถึง และการพัฒนาตัวเด็กและเยาวชน
จากการดำเนิน พบว่า ปัญหาพฤติกรรม ความรุนแรง การก่ออาชญากรรม และทำผิดกฎหมายในเด็ก และเยาวชนลดน้อยลง เด็ก และเยาวชน มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เกิดกระบวนการการมีส่วนร่วมอย่างเป็นรูปธรรมจากภาครัฐ และเอกชนรวมทั้งเกิดการพัฒนารูปแบบ องค์ความรู้ ในการแก้ไขปัญหาพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมด้วยการส่งเสริมให้เยาวชนกลุ่มเสี่ยงได้มีเวทีในการแสดงออกอย่างสร้างสรรค์ และมีการเพิ่มพื้นที่บวกทางสังคมเพื่อเด็กและเยาวชน เช่น มีสนามแข่งขันรถจักรยานยนต์ ลานกิจกรรม รวมทั้งมีกิจกรรมให้เยาวชนได้มีโอกาสไปเป็นอาสาสมัครรุ่นเยาว์ เพื่อให้เด็กมีจิตอาสา และเปลี่ยนวิถีชีวิตไปเป็นผู้ช่วยเหลือเสียสละเพื่อสังคมแทนการสร้างปัญหา เช่น การเป็นอสม.น้อย เป็นกองปราบจิ๋ว หรือเป็นคุมประพฤติจิ๋ว
นางกฤษณา จันทร์ตรี หัวหน้าศูนย์ต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด กล่าวว่า การแก้ไขปัญหาอาชญากรรม และพฤติกรรมไม่เหมาะสมของเด็กและเยาวชน "ซิ่ง ซ่า มั่วเซ็กซ์ เสพยาหรือโครงการ 3 ซ. ของ จ.จันทบุรี " เป็นโครงการที่น่าชื่นชม เพราะได้นำ 3 ยุทธศาสตร์หลักของ TO BE NUMBER ONE มาเป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อนโครงการ เช่น มีการรณรงค์โครงการฯเพื่อสร้างกระแสประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆในจังหวัดซึ่งสอดคล้องกับ ยุทธศาสตร์ที่ 1 คือ การรณรงค์สร้างกระแสที่เอื้อต่อการป้องกัน และแก้ไขปัญหายาเสพติด มีการดำเนินโครงการในลักษณะเพื่อนช่วยเพื่อน มุ่งเน้นการพัฒนาจิตใจเยาวชนกลุ่มเสี่ยงซึ่งสอดคล้องกับ ยุทธศาสตร์ที่ 2 คือ การสร้างภูมิคุ้มกันให้ห่างไกลจากปัญหายาเสพติด และมีการบูรณาการกับทุกภาคส่วนมีการจัดตั้งคณะภาคีเครือข่ายและประชุมเครือข่ายอย่างสม่ำเสมอสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ที่ 3 คือ การสร้างและขยายภาคีเครือข่ายการดำเนินการ จึงนับเป็นโครงการที่สามารถตอบโจทย์ได้ครบทั้ง 3 ยุทธศาสตร์หลักของ TO BE NUMBER ONE ได้อย่างดีเยี่ยม
โครงการ 3 ซ จึงนับเป็นนวตกรรมใหม่ ที่สามารถขยายผลไปยังภาคส่วนอื่นๆ เพื่อจะนำแนวคิดของทาง จ.จันทบุรีไปบูรณาการต่อยอด ให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมของพื้นที่นั้นๆ ซึ่งจะเป็นการช่วยลดปัญหาพฤติกรรมเสี่ยงของวัยรุ่นให้ลดน้อยลงได้
SCOOP@NAEWNA.COM
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
บทความใหม่กว่า
บทความที่เก่ากว่า
หน้าแรก
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น