วันพฤหัสบดีที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ซับสะเดา.. ครั้งเดียว ไม่เคยพอ!








แนวป่าขึงเขตล้อม.........ขุนเขา
ไม้ป่าโปร่งงามเสลา............สลับต้น
นกป่าฉวัดเฉวียนเงา..........ยามสงัด
เที่ยวป่าอาจดั้นด้น.........วิบากด้วยกันดาร๚ะ

ผ่านตัวเมืองห่างเสี้ยว.......ศิวิไลซ์
เข้าสู่ป่าผลัดใบ...........บ่งชี้
อยู่สุดกู่แสนไกล.......กลางเถื่อน
ณ ซับสะเดาหน่วยนี้.......พิทักษ์ท้ายทับลาน๚ะ

ผ่านไร่ใบอ้อยอ่อน........ไหวโอน
รถเขย่านั่งตัวโยน.....กระแทกกระทั้น
ทางขรุขระกระดอนโดน........ดินกรวด
เสียงกระดิ่งคอวัวกระชั้น.......กระชุ่นเท้าตามฝูง๚ะ

ยอดเขาสูงครึ้มเมฆ.......หม่นลอย
แสงหลุบเหมือนรอคอย.......หยาดชื้น
เหงื่อหยดไม่ถดถอย...........ฤๅถอด ใจนา
ทั้งนกแพงนกพื้น............พบได้หลายพันธุ์๚ะ

เที่ยงวันฝนชะล้าง.......ฝุ่นสลาย
ลมชื่นพัดโชยคลาย..........คลี่ร้อน
ม่านเมฆดาดปุยพราย........ขาวพร่าง
เหนือป่าเปลวแดดฟ้อน............ขับฟ้าจรัสสี๚ะ

เริ่มมีเสียงนกร้อง...........ระเริงไพร
ทุกพุ่มพฤกษ์ระทึกไหว..........วิหคเร้น
หนอนแมลงน่าตื่นใจ......ชวนจิก
นกไต่ไม้กระโดดเต้น..........รอบต้นตามกิน๚ะ

เหยี่ยวใหญ่บินร่อนคว้าง....กลางหาว
อีแพร่ดอวดคิ้วขาว............คาดหน้า
หัวขวานเด่นเป็นดาว........ประดับป่า
ตะขาบทุ่งสีเจิดจ้า..........ขณะอ้าปีกถลัน๚ะ

ธรรมชาติสรรค์สร้างสิ่ง........สวยงาม
ใต้ฟากฟ้าสีคราม....ครอบไว้
คนดูนกติดตาม.......โดยตระหนัก
พร้อมรักษ์พร้อมรบให้........ป่าไม้อุดมเสมอ๚ะ๛





ถนนดินลูกรังสีแดงทอดยาวผ่านกลางไร่อ้อยไปสุดสายตา มองเห็นทิวเขาอยู่ลิบๆ
จุดหมายปลายทางของเราคือ ซับสะเดา หน่วยพิทักษ์อุทยาน ทล ๑๒
ของอุทยานแห่งชาติทับลาน
อันเป็นผืนป่าเต็งรังที่ค่อนข้างสมบูรณ์

เคยมีรายงานของนักสำรวจนกเหยี่ยวประจำถิ่น ช่วงปลายปี ๒๕๕๑
ว่าได้พบนกในป่าซับสะเดาถึง ๒๘ วงศ์ จำนวน ๗๘ ชนิด
นับว่าเป็นความเย้ายวนใจยิ่งนักสำหรับคนดูนก



อย่างน้อย.. ก็เคยทำให้ข้าพเจ้าและเพื่อนจิ๋วขับรถดั้นด้นกันไปถึง ๒ ครั้ง
และก็ผิดหวัง รับทานแห้วกันทั้ง ๒ ครั้ง



เพราะนอกจากเอี้ยงหงอน เอี้ยงสาริกาตามไร่อ้อยระหว่างทาง
กับนกตะขาบทุ่งตัวสองตัวในป่าเต็งรังแล้ว
เราไม่ได้เห็นนกชนิดอื่นๆ ดังที่มีในรายงานเลย
แทบจะเรียกได้ว่าเราขับรถเกือบ ๖๐๐ กิโลเมตร ไปซับถึงสะเดา
และกลับกรุงเทพแบบมือเปล่า


เทพบุตรข้างถนน : นกตะขาบทุ่ง (Indian Roller)

หากถามว่าเข็ดไหม คำตอบของคนดูนกคือ ..ไม่เข็ด!
แล้วคุ้มหรือ.. อาจจะไม่คุ้มนัก แต่ก็ไม่เสียเที่ยว
เพราะอย่างน้อยก็ทำให้คนที่มักหลงทางอย่างเราคุ้นเคยกับเส้นทางมากขึ้น





เมื่อมีโอกาส คนดูนกจึงไม่ลังเลที่จะไปอีก
รายชื่อนกที่มีคนเคยพบมาแล้วและยังเป็นนกใหม่สำหรับเรานั้น
มักจะทำให้การเดินทางครั้งใหม่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นและคาดหวังเสมอ



จากทางหลวงสาย ๓๐๔ เราเลี้ยวเข้าหมู่บ้านปอแดงตรง กม ๙๒
มุ่งหน้าไปโรงงานน้ำตาลครบุรี ซึ่งอยู่ห่างจากทางหลวง ๒๑ กิโลเมตร



ด้านข้างโรงงานน้ำตาลจะเป็นจุดเริ่มต้นถนนดินลูกรังสีแดงตัดผ่านไร่อ้อยและมันสำปะหลัง
ซึ่งก็ยังคงทอดยาวเปล่าเปลี่ยวอยู่เช่นเดิม นอกจากฝูงวัวเลี้ยงของชาวบ้าน
ก็มีเพียงรถกระบะสวนทางออกมาเพียงคันเดียว


นกจาบคาหัวสีส้ม (Chestnut-headed Bee-eater)

แต่ไร่อ้อยสองข้างทางถูกเก็บเกี่ยวและขนถ่ายสู่โรงน้ำตาลไปหมดแล้ว
พื้นที่บางส่วนเริ่มมีต้นอ่อนของพืชฤดูใหม่งอกงาม
มีจาบคาหัวสีส้ม จาบฝนปีกแดง และกระเต็นอกขาวเกาะสายไฟให้เห็นเป็นระยะๆ
เหมือนจะทักทายเราไปตลอดทาง



เมื่อเข้าเขตป่าของซับสะเดา ต้นไม้เริ่มหนาตาขึ้น
แต่ก็ยังมีลักษณะพิเศษของป่าเต็งรังคือ พื้นป่าไม่รกเรื้อ
สามารถเดินเข้าไปตามดูนกได้ง่ายๆ ด้วยความรู้สึกปลอดภัย


นกหัวขวานเขียวตะโพกแดง (Black-headed Woodpecker)

แม้ถนนลูกรังสีแดงยังคงทอดยาวไม่สิ้นสุด
จะผ่านดงลึกไปถึงไหน ข้าพเจ้าก็ไม่เคยได้หาคำตอบให้ตนเองสักที
แต่ตามเส้นทางนั้น เราจอดรถเพียงระยะไม่ไกลจากที่ทำการ
แล้วลงเดินแซกซอนสอดส่ายสายตาไประหว่างต้นไม้สูงเปลา


นกหัวขวานสามนิ้วหลังทอง (Common Flameback)

คราวนี้นับเป็นโชคดี เราได้เห็นนกมากมาย มีนกไต่ไม้ ๒ ชนิด นกหัวขวาน ๔ ชนิด
หนึ่งในนั้นเป็นชนิดที่หาดูได้ยาก คือ หัวขวานใหญ่สีดำที่จัดว่าเป็นดาวดวงเด่น
ของป่าซับสะเดา รวมถึงนกอีแพร่ดคิ้วขาว นกปีกลายสก็อต
และนกพื้นๆ อย่างแซงแซวสีเทา นกขมิ้นท้ายทอยดำ นกขี้เถ้าใหญ่
ตลอดจนนกตะขาบทุ่ง เจ้าของปีกสีนำ้เงินเจิดจ้า ฉายาเทพบุตรข้างถนน


นกหัวขวานใหญ่สีดำ (White-breasted Woodpecker)

นกปีกลายสก็อต (Eurasian Jay)


นกไต่ไม้ท้องสีเม็ดมะขาม (Chestnut-bellied Nuthatch)


นกอีแพร่ดคิ้วขาว (White-browed Fantail)


แซงแซวสีเทา (Ashy Drongo)

ทริปดูนกของคนกลุ่มเล็กๆ อย่างเรา
ใช้เวลา ๒ ​วัน ๑ คืน ที่หน่วยพิทักษ์อุทยานซับสะเดาอย่างมีความสุข
ซึ่งเราอดดีใจไม่่ได้ที่แม้จะมีน้ำมีไฟเข้าไปถึง สามารถอำนวยความสะดวก
ได้เพียงพอกับอัตภาพ แต่การเดินทางอันยากลำบากที่เกือบเรียกได้ว่าทุรกันดาร
ทำให้ซับสะเดาไม่ดึงดูดความสนใจนักท่องเที่ยวทั่วไปมากนัก



เราได้แต่หวังให้หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งนี้อยู่ห่างไกลความเจริญอย่างนี้ต่อไปนานๆ
เก็บไว้เป็นบ้านของนก และเพื่อเป็นสถานที่สำหรับคนที่อยากมาเยือนด้วยใจ
มิใช่ต้องการเสพธรรมชาติแบบสำเร็จรูปบนถนน ๘ เลน
ดังกรณีที่กำลังเกิดขึ้นกับเขาใหญ่ ป่าอีกฟากฝั่งถนนของทับลาน

หมายเหตุ :
โคลงและรูปในเอ็นทรี่นี้ เป็นชุดเดียวกับที่ตีพิมพ์ใน คมชัดลึก
ฉบับวันนี้ วันอาทิตย์ที่ ๑๓ มิถุนายน ๒๕๕๓
ข้าพเจ้าเอามาแปะไว้อีกด้วยความภูมิใจ (เรียกง่ายๆ ว่า.. 'เห่อ' นั่นเอง!)


หากไม่ซื้อหนังสือพิมพ์ฉบับฮาร์ดค็อปปี้มาดู
ก็คงนึกภาพไม่ออกว่ารูปและเรื่องถูกจัดวางเอาไว้อย่างสวยงามชวนอ่านแบบนี้


--
ขอขอบคุณเจ้าของภาพและเรื่องมาไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะครับ ( -/\- )

ไม่มีความคิดเห็น: