วันพุธที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2553

เรื่องไม่ดีที่ไม่ควรมีในครอบครัว
บ้านคือโรงเรียนแห่งแรกที่จะทำให้เด็กได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ ที่อยู่รอบตัว ซึ่งคนที่จะสอนลูกคือพ่อแม่ แต่การที่จะสอนอะไรนั้นก็ไม่เห็นชัดเท่ากับการกระทำที่เป็นตัวอย่างให้แก่ลูก ครอบครัวไหนสอนหรือปฏิบัติอย่างไร เด็กก็เป็นอย่างนั้น วันนี้จึงมีคำแนะนำเกี่ยวกับเรื่องสิ่งที่ควรมีและสิ่งที่ไม่ควรมีในครอบครัวมาฝากกันคะ

ทุกครอบครัวหวังให้มีแต่เรื่องดีๆ แต่ในความเป็นจริง ครอบครัวแต่ละครอบครัวก็คงไม่ได้มีแต่เรื่องดีๆ ตลอดเวลา ฉะนั้นสิ่งที่สำคัญคือ เราต้องรู้สิ่งที่เรามีในครอบครัวว่าสิ่งไหนเป็นสิ่งที่ดี ที่ควรมี ควรรักษาไว้และสิ่งไหนเป็นสิ่งที่ไม่ดีที่ต้องขจัดให้หายไป เครือข่ายครอบครัวได้มีการสำรวจเพื่อระบุว่าสิ่งใดบ้างที่ไม่ควรให้มีพื้นที่อยู่ในครอบครัว


  1. ความรุนแรง ภาพที่ชัดเจนที่สุดของความรุนแรงในครอบครัวคือ การใช้อารมณ์ของพ่อแม่ทั้งต่อพ่อแม่ด้วยกันเองและต่อลูก บางครั้งอาจจะดูเป็นเรื่องเล็กน้อยและปกติ เช่น การดุด่าว่ากล่าวหรืออารมณ์เสียใส่ลูก แต่สิ่งเหล่านี้ก็อาจสามารถนำมาซึ่งความรุนแรงกับเด็กอย่างไม่รู้ตัว ฉะนั้น อารมณ์เสียจึงเป็นอย่างแรกๆ ที่ควรนำออกไปจากครอบครัว

  2. เหล้า/บุหรี่ นอกจากจะเป็นแบบอย่างที่ไม่ดีต่อลูกๆ แล้ว เหล้าและบุหรี่ยังเป็นตัวการทำให้บรรยากาศในครอบครัวเสียอีกด้วย ในครอบครัวที่พ่อหรือแม่ดื่มเหล้า และเมาเป็นประจำ สติที่ควรมีในการเลี้ยงลูกก็จะหายไป อาจเป็นเหตุให้พ่อแม่ทำสิ่งที่ไม่ควรจะทำหรือร้ายกว่านั้น อาจนำความรุนแรงมาสู่ครอบครัวอีกด้วย ในส่วนของบุหรี่ก็ไม่แพ้กัน เพราะมีข้อมูลชัดเจนว่าคนที่อยู่รอบข้างคนสูบบุหรี่จะได้รับสารพิษมากกว่าตัวผู้สูบเองหลายเท่า การสูบบุหรี่จึงเหมือนเป็นการแสดงออกถึงความไม่ห่วงใยคนในครอบครัว ลูกๆ จึงอาจมีความรู้สึกเชื่อมโยงว่าพ่อแม่ที่สูบบุหรี่ไม่รักตนก็ได้

  3. บริโภคนิยมและความฟุ่มเฟือย นอกจากจะเป็นสาเหตุต้นๆ ที่จะนำพาปัญหาเศรษฐกิจมาสู่ครอบครัวแล้ว ยังเป็นพิษเป็นภัยต่อวัฒนธรรมการออมที่พ่อแม่ควรจะปลูกฝังกับลูกด้วย ที่น่าวิตกมากกว่านั้นคือ วัฒนธรรมบริโภคนิยม ซึ่งผลักดันให้ผู้คนโดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นให้หันไปให้ความหมายกับชีวิตที่เน้นการบริโภคเพียงอย่างเดียว ตั้งแต่บริโภคเพื่อสร้างอัตตลักษณ์ บริโภคเพื่อแสดงอำนาจ บริโภคเพื่อเข้ากลุ่ม เป็นที่มาของการบริโภคที่มาเกินความพอเพียง นำมาสู่ความเสี่ยงต่อปัญหาอื่นๆ ได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเด็กติดเกม ปัญหาโรคอ้วน ซึ่งล้วนมีส่วนมาจากวัฒนธรรมบริโภคนิยมทั้งสิ้น


  4. สื่อไม่สร้างสรรค์ สื่อโฆษณามอมเมาบริโภคนิยมเกินเหตุ ค่านิยมผิดๆ แฝงเร้น แถมยังผลิตซ้ำจนฝังหัวหรือแม้แต่ความรุนแรงโหดร้ายจนด้านชา ล้วนแต่มีแฝงอยู่ในสื่อไม่สร้างสรรค์ในสังคมไทยมาโดยตลอด ครั้นจะกีดกันลูกออกจากสื่อไม่สร้างสรรค์ที่เกลื่อนกลาดอยู่ทั่วสังคมก็คงเป็นไปได้ยาก แต่หากครอบครัวเข้มแข็ง สร้างภูมิคุ้มกันที่เรียกว่า วิจารณญาณ ให้กับลูกๆ ได้ ก็จะสามารถนำสื่อไม่สร้างสรรค์ที่มีอยู่ดัดแปลงให้เป็นสื่อสร้างสรรค์และสร้างความระแวดระวังให้กับลูกๆ ได้

  5. การโกหก สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งสำหรับครอบครัวก็คือ ความไว้เนื้อเชื่อใจกัน หากไร้ซึ่งความไว้เนื้อเชื่อใจกันแล้ว ครอบครัวที่เต็มไปด้วยความหวาดระแวงซึ่งกันและกัน ย่อมมีบรรยากาศไม่ต่างไปจากซ่องโจร และสิ่งที่จะทำลายความไว้ใจได้ดีที่สุดคงหนีไม่พ้นการโกหก การโกหกเล็กๆ น้อยๆ เพียง 1 ครั้ง อาจนำมาเพียงความระแวงเล็กๆ เพียง 1 อย่าง แต่ความหวาดระแวงที่ไม่มีวันลบเลือนนี้ก็สามารถแผ่ขยายทำลายบรรยากาศของครอบครัวได้ง่ายๆ
นอกจาก 5 ประการข้างต้นแล้ว ยังมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่ไม่ควรปล่อยให้เข้ามากล้ำกลายครอบครัวของเรา แต่ไม่ว่าสิ่งเหล่านั้นจะมีมากน้อยเพียงใดก็ตาม หากครอบครัวมีความรักและความเข้าใจให้แก่กัน ก็ย่อมจะกำจัดสิ่งไม่ดีเหล่านั้นให้หมดไปได้ในที่สุด



ที่มาข้อมูล : http://women.sanook.com
สำนักข่าวไทย อ.ส.ม.ท.
ฝากครรภ์…ทำกันยังไง ?
แนะ 8 วิธีส่งเสริมเด็กไทยรักการอ่าน
คำชม...สร้างลูกได้
"Child Centered" ระบบที่ครู-พ่อแม่ต้องเข้าใจ-ใช้ให้ถูก
การใช้ยาในเด็ก
"ปาน" หลากชนิดของลูกน้อย
แต่งสวย แบบประหยัดช่วงตั้งท้อง
ความสุขที่ยั่งยืน สร้างได้จากตัวเอง
เมื่อ "E-Learning" ดึงพ่อแม่ใส่ใจการเรียนลูก
2 อาการควรรู้ เรื่องดวงตาของลูก

ไม่มีความคิดเห็น: