วันศุกร์ที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2553

Google หาญกล้าปักหลักฮ่องกง ท้า 'ปักกิ่ง'รบจริงหรือ?

กาแฟดำ
กาแฟดำ
การเผชิญหน้าระหว่าง Google กับ รัฐบาลปักกิ่ง เป็นเกมธุรกิจการเมือง ที่น่าติดตามยิ่งนัก เพราะจะเป็นบทพิสูจน์

ว่ารัฐบาลจีน พร้อมที่จะ "หักดิบ" กับบริษัทเทคโนโลยีอันโด่งดังที่สุดของโลกจากสหรัฐ

ขณะเดียวกัน ก็เป็นการท้าทายว่า "กูเกิล" จะหาญกล้าท้ารบกับรัฐบาล ที่ควบคุมผู้ใช้อินเทอร์เน็ตประมาณ 400 ล้านคน อย่างตรงไปตรงมา หรือไม่ เพียงใด

พอ กูเกิล ประกาศย้ายจากปักกิ่งไปฮ่องกงเพื่อหนีการเซ็นเซอร์ แต่ยังทำธุรกิจกับตลาดจีนกันใหญ่โตต่อไปได้ ผมก็เห็นพาดหัวในหนังสือพิมพ์ Asian Wall Street Journal เมื่อวานเช้าทันทีว่า "Good challenges Beijing" หรือถ้าเป็นภาษาชาวบ้านก็ต้องตะโกนว่า "กูเกิลท้ารบปักกิ่ง"

เป็นเกมที่มีเดิมพันสูงทั้งสองฝ่ายอย่างไม่ต้องสงสัย

เพราะต้องไม่ลืมว่าข้างหลังภาพของการปะ ฉะ ดะ ระหว่างบริษัท search engine ทางอินเทอร์เน็ตอันใหญ่โตกับรัฐบาลจีนที่ยืนหยัดในหลักการ ว่า "ใครมาทำธุรกิจในจีนต้องทำตามกติกาจีน" นั่นคือรัฐบาลสหรัฐ ที่หนุนเนื่องกูเกิลอยู่อย่างปฏิเสธไม่ได้

เมื่อใดที่ข้อพิพาทนี้ถูกยกระดับขึ้นเป็นความขัดแย้งระหว่างปักกิ่งกับวอชิงตัน เมื่อนั้นก็จะได้เห็นการบานปลายของความขุ่นข้องหมองใจทางธุรกิจ เป็นการงัดข้อกันทางการเมืองของสองยักษ์ใหญ่ในเวทีโลก

ถึงวันนี้ ผมยังไม่เห็นคำสั่งของรัฐบาลจีน ให้ตามไปปิดเว็บไซต์ของกูเกิลที่ย้ายไปฮ่องกง Google.com.hk

ใครเข้าไปที่เว็บไซต์เก่า คือ Google.cn ก็จะยังถูกส่งต่อไปที่เว็บไซต์ฮ่องกงแห่งใหม่ ยังไม่โดนระงับยับยั้งเหมือนที่เจ้าหน้าที่จีนทำกับเว็บไซต์ "อ่อนไหว" อื่นๆ ที่ถือเป็นศัตรูของรัฐบาลจีน

คนเข้าอินเทอร์เน็ตที่เมืองจีน ไม่อาจจะเห็นเนื้อหาที่ไม่เซ็นเซอร์ ที่ปรากฏในเว็บไซต์กูเกิลได้แต่อย่างใด

จะว่าไปแล้ว เกมนี้เพิ่งเริ่มต้น เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้เป็นแค่ฉากลองของเท่านั้น จากนี้ไป รัฐบาลจีนจะทำอย่างไร จะเป็นมาตรฐานใหม่สำหรับการปฏิบัติ ต่อแวดวงเทคโนโลยีของโลก ที่ต้องการทำธุรกิจกับตลาดจีนที่ใหญ่ที่สุดของโลก

ส่วนของ กูเกิล ที่เกี่ยวกับการขายโฆษณา และวิจัยกับพัฒนายังอยู่ในจีน

หุ้นส่วนและพันธมิตรทางธุรกิจของกูเกิล ที่เป็นบริษัทจีนก็ยังประเมินอยู่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับตน เพราะกำลังรอว่าเจ้าหน้าที่จีนจะมีปฏิกิริยาอย่างไรกับการ "ย้ายหนี" ครั้งใหญ่ของกูเกิล หลังจากที่ยึกยักกันอยู่มาสองเดือนเต็ม เมื่อกูเกิลประกาศว่าจะไม่ยอมอยู่ภายใต้กฎกติกาการเซ็นเซอร์ของรัฐบาลจีน

หุ้นส่วนของกูเกิลในจีนล้วนแล้วแต่เป็นบริษัทยักษ์ๆ ระดับชาติของจีนทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น Sina.com หรือ China Mobile ซึ่งรัฐบาลมีหุ้นใหญ่อยู่ด้วย

ข่าวบอกว่า China Mobile คงจะต้องประกาศยกเลิกข้อตกลงที่มีกับกูเกิล ที่จะให้การค้นหาข้อมูลของกูเกิลไปอยู่ในโฮมเพจในมือถือของตน

China Unicom, ซึ่งเป็นบริษัทมือถือใหญ่อันดับสองของจีน ก็คงจะเลื่อน หรือไม่ก็เลิกโครงการเดิมที่จะให้แพลตฟอร์ม Android มาเป็นส่วนหนึ่งของบริการของตนให้แก่ลูกค้าจีน

แปลว่า ผลทางลบต่อธุรกิจจีนเองก็มีไม่น้อยเช่นกัน...เข้าข่าย "หยิกเล็บก็เจ็บเนื้อ" มากน้อยแค่ไหนสำหรับระดับนำของรัฐบาลจีนเป็นเรื่องที่ต้องวิเคราะห์กันอย่างรอบด้าน

ณ จุดนี้ กูเกิลพูดอะไรมากไม่ได้ นอกจากจะประกาศว่าจะทำตามข้อตกลง และเงื่อนไขทั้งหลายทั้งปวงที่ทำไว้แก่ลูกค้า และหุ้นส่วนพันธมิตรในจีนอย่างแน่นอน

ผมเชื่อว่าในท้ายที่สุดแล้ว ปักกิ่งจะตัดสินใจบนพื้นฐานของนโยบายการเมืองมากกว่าธุรกิจ เพราะหากว่ายอมกูเกิล ก็เท่ากับเป็นการเปิดทางให้ธุรกิจด้านเทคโนโลยีต่างประเทศอื่นๆ เลียนแบบกูเกิลในการอ้าง "เสรีภาพแห่งข่าวสารข้อมูล" มาเป็นประเด็นต่อรองกับรัฐบาลจีน

ด้านหนึ่ง รัฐบาลจีนต้องการจะเปิดทางให้ธุรกิจยักษ์ต่างชาติเข้ามาลงทุน เพื่อให้เห็นภาพว่าประเทศจีนวันนี้เป็นศูนย์กลางแห่งการลงทุนระดับยักษ์ทั้งโลก และเศรษฐกิจจีนเองก็ได้ประโยชน์มหาศาล จากการเข้ามาตั้งรกรากของบริษัทต่างชาติ

แต่นั่นไม่ได้แปลว่า ผู้นำจีนวันนี้จะยอมให้ผลประโยชน์ทางธุรกิจ มากำกับทิศทางทางการเมืองของตนเป็นอันขาด... หากต้องเลือกระหว่างสองอย่างนี้ ผมไม่มีข้อสงสัยใดๆ ว่ารัฐบาลจีนบอกกูเกิลว่า

"เมินเสียเถิด"

ไม่มีความคิดเห็น: